เคล็ดลับดูแลบ้านแบบฉบับคนไม่มีเวลา
เชื่อว่าทุกคนดีใจมากเมื่อได้บ้านหลังแรกในชีวิต และหลายคนจะเลือกบ้านที่สวยตามแบบฉบับที่ตัวเองชอบเป็นอันดับแรก เพราะต้องอาศัยอยู่ที่บ้านหลังนี้ไปอีกยาวนาน ใครก็อยากมีบ้านสวย ๆกันใช่ไหมล่ะ แต่เมื่อเวลาผ่านไปนาน ๆ บ้านก็อาจจะเริ่มมีสภาพที่เก่าลงจากตอนแรก บวกกับเพื่อน ๆที่ต้องออกไปทำงานนอกบ้านเป็นประจำ บางคนก็ไม่มีเวลาในการดูแลบ้านเลย จะมานึกอยากจะปรับปรุงบ้านอีกทีก็ตอนว่างจากงานเพียงเท่านั้นใช่ไหม? แต่วันนี้เรามีเคล็ดลับเล็ก ๆ น้อย ๆในการดูแลบ้าน เพียงแค่เพื่อน ๆ สละเวลาซักไม่กี่นาทีต่อวันมาสอดส่องดูความเปลี่ยนแปลงภายในบ้าน และดูแลสักเล็กน้อยเป็นประจำ เพียงเท่านั้นบ้านเราก็จะยังคงสภาพความใหม่ สะอาด เรียบร้อยน่าอยู่แบบนี้ไปตลอด ไม่เพียงแต่จะทำให้บ้านไม่เก่า แต่ยังช่วยให้คนที่อาศัยอยู่ในบ้านมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นด้วย และวันนี้เราจะมาแนะนำเคล็ดลับดูแลบ้าน จะมีอะไรบ้างไปดูกันเลย
- การดูแลทำความสะอาดเฟอร์นิเจอร์ ไม่ว่าจะเป็นโต๊ะ เก้าอี้ โซฟา ต้องหมั่นใช้น้ำยาขัด และเช็ดทำความสะอาดเพื่อไม่ให้พื้นผิวของเฟอร์นิเจอร์หม่นหมอง เพราะมันจะดูเก่ามากเลยทีเดียว และไม่ควรใช้น้ำยาขัดที่มีส่วนผสมของน้ำมัน เพราะนอกจากจะไม่ทำให้เฟอร์นิเจอร์ดูใหม่แบบเป็นธรรมชาติแล้ว อาจจะทำให้เฟอร์นิเจอร์ของเราเสียหายได้อีกด้วย ไปต่อด้วยเคล็ดลับดูแลบ้านแบบที่สองกันเลย
- การทำความสะอาดผ้าม่าน และพมปูพื้น เริ่มจากการนำผ้าม่านไปแช่น้ำเย็นเป็นเวลาครึ่งชั่วโมง เพื่อให้เศษสิ่งสกปรกในผ้าม่านค่อย ๆหลุดออกมา ในระหว่างนี้เราก็ไปทำความสะอาดอย่างอื่นได้ด้วย ก่อนจะนำผ้าม่านของเราไปซักได้ตามปกติ โดยใช้น้ำยาซักผ้าที่ถนอมผ้าจะดีมากเลย ในส่วนของพรมปูพื้น ให้หมั่นดูฝุ่นบนพรมและปัดเศษสิ่งสกปรกออกให้สะอาดอยู่เสมอ แต่เมื่อเกิดคราบบนพรมล่ะจะทำยังไง? ให้เพื่อน ๆโรยผงซักฟอกทิ้งไว้บนคราบ รอให้ผงซักฟองดูดซับคราบสิ่งสกปรกสักพัก แล้วค่อยทำการเช็ดออก เพียงเท่านี้ก็ได้พรมใหม่แบบเดิมคืนมาแล้ว ถือเป็นเคล็ดลับดูแลบ้านที่ใช้ได้ผลมาก ๆเลยทีเดียวนะ
- มาถึงส่วนสุดท้ายของเคล็ดลับการดูแลบ้านกันแล้ว นั่นก็คือการดูแลพื้นนั่นเอง บ้านเพื่อน ๆคนไหนที่เป็นพื้นกระเบื้องบ้าง? การเช็ดถูด้วยน้ำยาเช็ดพื้นก็เป็นเรื่องที่ทำกันเป็นประจำอยู่แล้ว แต่เมื่อเราเผลอลืมไปจนพื้นเกิดเป็นคราบขึ้นมาล่ะ เคล็ดลับที่ไม่ลับจากของในครัวเลยคือ ให้นำเบกกิ้งโซดามาผสมกับน้ำและทาลงตรงที่เกิดคราบ ทิ้งไว้สักระยะก่อนจะเช็ดทำความสะอาดปกติ แค่นี้คราบก็หลุดหายไปแล้ว
