ไขควง เครื่องมือช่างไฟฟ้าขั้นพื้นฐานที่ต้องมี
อุปกรณ์ช่างพื้นฐานที่สุดหนึ่งอย่างที่ช่างควรพกติดตัวเอาไว้อยู่เสมอคือไขควง ที่มีวัตถุประสงค์ในการใช้งานง่ายคือการขันสกรู หรือน็อตให้แน่น หรือคลายสกรู ลักษณะของเครื่องมือช่างชนิดนี้คือมีปลายจับเป็นยางหรือพลาสติก ส่วนที่เหลือเป็นแท่งโลหะยาว ปกติแล้วไขควงจะแบ่งออกเป็น 2 ประเภทใหญ่คือ ไขควงปากแบน เอาไว้ขันสกรูที่มีหัวร่องเป็นแนวขวาง และอีกหนึ่งประเภทคือไขควงปากแฉก เอาไว้ใช้ขันสกรูที่มีหัวร่องเป็นสี่แฉก สิ่งสกรูทั้งสองชนิดมีขนาดของหัวไขแตกต่างกันไปตามลักษณะการใช้งาน
นอกจากนี้ยังมีไขควงอีกสองประเภทที่เราไม่ค่อยได้พบเห็นมากนักคือไขควงหัวคลัตช์ ที่เอาไว้ใช้สำหรับโลหะ แผ่นโดยเครื่องมือช่างตัวนี้เหมาะสำหรับงานที่เน้นความสวยงามเป็นหลัก โดยการใช้งานหัวของไขควงจะถูกสวมเข้าไปพอดีกับตัวสกรูเพื่อขันให้เข้าที่ ส่วนอีกหนึ่งประเภทได้แก่ ไขควงออฟเสท ถูกออกแบบมาเพื่อใช้ในการขันสกรูที่อยู่ในที่แคบเพราะปลายทั้งสองด้านของไขดวงชนิดนี้ตั้งฉากซึ่งกันและกัน
ไขควงยังถูกดัดแปลงสำหรับใช้เช็กไฟฟ้าว่าจุดใดมีไฟฟ้าไหลผ่านอยู่บ้าง ซึ่งจะเลือกไขควงชนิดนี้ว่าไขควงเช็คไฟ วิธีการใช้งานคือนำปากไขควงไปแตะที่บริเวณที่ต้องการเช็กไฟฟ้า หากยังมีไฟฟ้าไหลผ่านไฟที่ติดอยู่บริเวณด้านจับของไขควงก็จะติดขึ้นมา
เครื่องมือช่างไฟฟ้าชนิดนี้ยังถูกพัฒนาด้วยการนำระบบไฟฟ้าเข้ามากลายเป็นไขควงไฟฟ้า ที่มีลักษณะการทำงานคล้ายสว่าน ด้วยการใช้มอเตอร์เข้ามาหมุนช่วยทำให้การขันสกรูเป็นไปได้อย่างง่ายดาย และรวดเร็วยิ่งขึ้น ยิ่งในปัจจุบันน้ำหนักของไขควงไฟฟ้าก็เบามาก โดยบางยี่ห้อมี่น้ำหนักเพียง 100 กรัม ส่วนการชาร์จไฟไฟก็เป็นไปได้อย่างดายเพราะสามารถชาร์จเข้ากับหัวยูเอสบีแบบเดียวกับโทรศัพท์มือ หรือบางยี่ห้อก็ใช้ถ่านให้การทำงาน
ข้อควรระวังเวลาใช้งานไขควงคือควรเลือกประเภทของไขควงให้เหมาะกับหัวสกรูที่ต้องขัน และเวลาที่ขันสกรู หรือคลายสกรูออกมาต้องมั่นใจว่าปากไขควงสัมผัสกับร่องของสกรูตลอดเวลา เพื่อป้องกันหัวสกรูยับเยิน และไม่ควรนำด้ามแทนสิ่ว หรือเอาไปงัดสิ่งต่างๆ เพราะจะทำให้เครื่องมือช่างชนิดหัก หรืองอได้ วิธีการเก็บรักษาควรทำความสะอาดทุกครั้งหลักการใช้งาน และให้ทาน้ำมัน หรือกันสนิม พร้อมทั้งเช็ดให้แห้ง เพื่อยืดอายุการใช้งานของไขควง
