รายละเอียดบิลค่าไฟฟ้า และวิธีการจัดการเมื่อค่าไฟฟ้าแพงเกินจริง
ต้องยอมรับเลยว่าไฟฟ้านั้นเป็นแหล่งพลังงานหลักสำคัญของโลกที่ช่วยขับเคลื่อนชีวิตของเราให้ไปข้างหน้าได้อย่างมีคุณภาพมากยิ่งขึ้น แทบจะทุกบ้านต่างก็มีไฟฟ้าใช้เป็นของตัวเอง สิ่งที่เราจะได้รับเป็นประจำทุกเดือนก็คือบิลค่าไฟฟ้านั่นเอง แต่ส่วนใหญ่เวลาที่ได้บินค่าไฟฟ้ามาเราก็มักจะดูเพียงแค่ว่าค่าใช้จ่ายในเดือนนั้นเป็นเงินเท่าไหร่ในหัวข้อรวมเงินค่าไฟฟ้าเดือนปัจจุบัน หลังจากนั้นเราก็เพียงแค่นำเอาเงินไปจ่ายหรือจ่ายผ่านบริการบนอินเทอร์เน็ตโดยที่เราไม่ได้รู้เลยว่าความจริงแล้วในบิลค่าไฟฟ้านั้นประกอบไปด้วยข้อมูลอะไรบ้างรวมไปถึงอัตราค่าไฟฟ้ามีกี่ประเภท
วันนี้เราจึงจะพาทุกคนไปทำความรู้จักเกี่ยวกับการใช้ไฟฟ้ากันมากยิ่งขึ้น เริ่มต้นจากอัตราค่าไฟฟ้าซึ่งถูกแบ่งออกเป็นทั้งหมด 2 ประเภทด้วยกันนั่นก็คือปริมาณไม่เกิน 150 หน่วยต่อเดือนและแบบที่เกินกว่า 150 หน่วยต่อเดือน ส่วนข้อกำหนดของอัตราค่าไฟฟ้านั้นจะมีอัตราค่าไฟฟ้าที่เรียกเก็บเป็นรายเดือนแบบไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่มและค่าไฟฟ้าในแต่ละเดือนซึ่งจะดูตามอัตราค่าไฟฟ้าพื้นฐานและค่าไฟฟ้าตามสูตรการปรับอัตราค่าไฟฟ้า หรือที่เรามักจะเห็นในบิลค่าไฟฟ้าว่าเป็นค่า FT นั่นเอง โดยค่าดังกล่าวนี้จะมีการเปลี่ยนแปลงเป็นประจำทุก 4 เดือน
ในบิลค่าไฟฟ้านั้นจะมี 3 ส่วนประกอบไปด้วยส่วนข้อมูลทั่วไปที่จะบอกถึงข้อมูลผู้ใช้ไฟฟ้า ต่อมาจะเป็นข้อมูลการใช้ไฟฟ้าประกอบด้วยเลขการอ่านครั้งที่แล้วและครั้งนี้ว่ามีการใช้ไฟฟ้าไปเป็นจำนวนเท่าไหร่ และส่วนสุดท้ายคือค่าไฟฟ้าที่เรียกเก็บซึ่งจะประกอบไปด้วยค่าพลังงานไฟฟ้าเป็นต้นทุนและค่าใช้จ่ายในการก่อสร้างโรงไฟฟ้า การจำหน่ายไฟฟ้า ค่าการผลิต ระบบสายส่ง ต่อมาเป็นค่าบริการรายเดือนซึ่งจะเป็นค่าใช้จ่ายในการจดหน่วยไฟ ค่า FT คือเชื้อเพลิงที่ใช้ในการผลิตไฟฟ้าอย่างเช่นถ่านหิน ก๊าซธรรมชาติ น้ำมันดีเซล น้ำมันเตา
และส่วนสุดขายก็คือภาษีมูลค่าเพิ่ม 7% ที่เรียกเก็บตามกฎหมายกำหนด หากในเดือนไหนเราพบว่าค่าไฟมีปริมาณที่มากเกินจนผิดปกติเราสามารถทำการแจ้งเรื่องไปยังสำนักงานการไฟฟ้าในเขตพื้นที่เพื่อเข้ามาตรวจสอบได้ โดยจะต้องพิจารณาตามข้อเท็จจริงมีการใช้ไฟฟ้าเกินมาจากพฤติกรรมการใช้ไฟฟ้าที่มีการเปลี่ยนแปลงไปหรือไม่ หรือในช่วงนี้อยู่ในช่วงฤดูร้อนค่าไฟจะแพงมากขึ้น มีการเปิดแอร์ในปริมาณที่มากเกินไปหรือไม่ หากอยู่ในกรุงเทพฯ หรือปริมณฑลให้ทำการแจ้งเรื่องผ่านทางการไฟฟ้านครหลวงเบอร์ Call Center 1130 แต่หากอยู่ในต่างจังหวัดให้ทำการแจ้งเรื่องผ่านทางการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคเบอร์ Call Center 1129 หลังการแจ้งความผิดปกติเกี่ยวกับค่าไฟแล้วเจ้าหน้าที่ก็จะเดินทางเข้ามาตรวจสอบว่ามีการเพิ่มขึ้นของค่าไฟฟ้าที่ผิดปกติหรือไม่ มีไฟฟ้ารั่ว หรือตัวมิเตอร์ไฟฟ้าผิดปกติ หากเกิดมาจากทางการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคก็จะทำการชดเชยส่วนดังกล่าวโดยพิจารณาจากประวัติการใช้ไฟฟ้าย้อนหลัง
