รวมวิธีการปลูกต้นไม้ในบ้าน ดูแลอย่างไรให้อยู่รอดปลอดภัย
ในปัจจุบันนั้นผู้คนหันมานิยมการปลูกต้นไม้กันมากยิ่งขึ้นโดยเฉพาะการปลูกต้นไม้ในอาคาร ก็อย่างที่เราทราบกันดีว่าต้นไม้ในแต่ละสายพันธุ์นั้นต่างก็มีความต้องการแสงแดดและน้ำที่แตกต่างกันออกไป หากเราไม่ได้รู้จักพวกมันดีพอและไม่ได้ดูแลพวกมันอย่างถูกต้องสิ่งที่จะเกิดปัญหาตามมาคือถ้าไม่ใบเหลือง ใบไหม้ ก็ต้องใบเหี่ยว หากทิ้งไว้สักพักพวกมันก็จะตายไปทำให้เราต้องเสียเงินซื้อต้นไม้ฟอกอากาศเพิ่มอีกหลักพันกันเลยทีเดียว ดังนั้นในวันนี้เราจึงจะพาทุกคนมาดูวิธีการปลูกต้นไม้ในบ้านอย่างไรให้อยู่รอดปลอดภัย อยู่แบบสวยงามตกแต่งบ้านของเราไปนานๆ
- การเตรียมต้นไม้ การปลูกต้นไม้ในอาคารนั้นควรลดปุ๋ยให้น้อยลงเนื่องจากแสงภายในบ้านน้อยกว่าด้านนอก ถ้าเราใส่ปุ๋ยในปริมาณที่มากจนเกินไปก็จะทำให้ต้นไม้ไม่แข็งแรงได้ ในส่วนของการลดน้ำต้องพยายามรักษาดินให้มีความชื้นในระดับปานกลางก็เพียงพอ ไม่ควรรดน้ำจนดินชุ่มจนเกินไป ควรวางต้นไม้ไว้ในสถานที่ที่แดดส่องถึงได้ประมาณ 50 เปอร์เซ็นต์เป็นเวลาประมาณ 1-2 อาทิตย์แล้วค่อยย้ายไปวางในสภาพที่มีแสงน้อยประมาณ 20 เปอร์เซ็นต์ประมาณ 2-3 อาทิตย์แล้วคอยสังเกตว่าพวกมันยังแข็งแรงดีอยู่หรือไม่ หากแข็งแรงดีก็สามารถวางทิ้งไว้ได้เลย
- การสังเกต ต้นไม้นั้นจำเป็นที่จะต้องได้รับการสังเกตเพราะว่ามันไม่สามารถส่งเสียงบอกเราได้ ถ้าต้นไม้ได้รับแสงมากเกินไปนั้นสิ่งที่จะเกิดขึ้นก็คือจุดสีน้ำตาลบนใบและเกิดอาการใบซีด หากได้รับแสงน้อยจนเกินไปเราจะพบว่าทั้งใบและกิ่งที่งอกออกมาใหม่จะมีขนาดเล็ก ใบเก่าจะเป็นสีเหลืองและหลุดร่วงลงมา หากเราเพราะว่าต้นไม้ของเราเอียงเข้าหาแสงสว่างเราอาจจะต้องหมุนกระถางให้ต้นไม้มีรูปทรงที่สวยงาม
- การรดน้ำ ต้นไม้ในอาคารน้ำควรรดน้ำประมาณอาทิตย์ละ 1-2 ครั้งแล้วแต่สายพันธุ์ ลด 1 ครั้งควรลดให้ช่วงกระถางดีกว่ารถเล็กน้อยเป็นประจำทุกวัน การรดน้ำบ่อยจะทำให้ช่องบินถูกปิดช่องว่างและทำให้อากาศถ่ายเทได้น้อย อาจทำให้ดินไม่แห้งสนิทและมีน้ำขังได้ๆ
- การใส่ปุ๋ย หากย้ายต้นไม้มาไว้ในอาคารแล้ว 6 อาทิตย์จึงค่อยเริ่มใส่ปุ๋ยโดยควรใช้สูตร 16-16-16 ในอัตราส่วนที่เท่ากันเป็นประจำ 15 วันสลับกับปุ๋ยอินทรีย์
- การทำความสะอาด ต้นไม้ถึงจะอยู่ภายในอาคารแต่ก็ยังคงต้องดูแลความสะอาดอยู่ดีโดยเฉพาะใบไม่ให้ฝุ่นเกาะ เราควรใช้ผ้าชุบน้ำเช็ดทำความสะอาดใบหรือจะใช้ฝักบัวล้างฝุ่นก็ได้เช่นเดียวกันแต่ต้องหาอะไรมาปิดหน้าดินเอาไว้เพื่อป้องกันไม่ให้น้ำไปชะหน้าดินออกจนหมด