การเลือกสีสำหรับทาบ้านไม้
ปัจจุบันเทรนด์การรีโนเวทบ้านหรือห้องนอนได้รับความนิยมและสนใจจากคนรุ่นใหม่เป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะเพราะต้องการรีโนเวทปรับเปลี่ยนตามประโยชน์การใช้สอย รีโนเวทบ้านเก่าให้ดูใหม่มีชีวิตชีวา หรือเปลี่ยนให้เข้ากับ Life style ในแบบที่ชอบก็ตาม ทั้งหมดนี้ถือเป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่มีคนให้ความสนใจ และตั้งกลุ่มแบ่งปันความรู้ในโซเชียลเป็นจำนวนมาก
การรีโนเวทนั้นสามารถทำได้กับบ้านทุกแบบ ไม่ว่าจะบ้านเก่าหรือบ้านใหม่ที่ยังไม่เข้าอยู่ และยังสามารถทำได้กับทั้งบ้านไม้และบ้านปูน โดยขึ้นอยู่กับความต้องการของผู้อยู่อาศัยนั่นเอง สำหรับบ้านไม้นั้น ถือเป็นอีกหนึ่งรูปแบบบ้านที่ได้รับความนิยม บ้างอาจจะเป็นเพราะวัสดุหาได้ง่ายจากธรรมชาติ พบมากในต่างจังหวัด แต่ก็มีอีกหลายคนที่ยอมลงทุนควักเงินจำนวนไม่น้อยเพื่อซื้อไม้มาทำบ้านเพราะความชอบเป็นการส่วนตัว ส่งผลให้ปัจจุบัน การสร้างบ้านด้วยไม้ได้รับความนิยมไม่แพ้วัสดุแบบอื่น ๆ เลยทีเดียว สำหรับบ้านไม้นั้น ไม่ว่าจะเป็นบ้านเก่าที่ต้องการรีโนเวทหรือบ้านใหม่ที่เพิ่งสร้างก็ตามที
การทาสีถือเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่สำคัญที่จะทำให้บ้านสวยงามน่าอยู่ทั้งภายในและภายนอก ทั้งนี้นอกจากเพื่อความสวยงามแล้ว ยังเป็นการรักษาผิวไม้ ช่วยให้มีความคงทนและมีอายุการใช้งานที่ยาวนานตามแบบที่ผู้อยู่อาศัยต้องการ อนึ่งการจะเลือกสีทาบ้านไม้นั้น หลาย ๆ คนอาจจะเริ่มมีความกังวลเนื่องจากไม่มีความรู้หรือข้อมูลด้านนี้มาก่อน วันนี้เรามีข้อแนะนำพื้นฐานสำหรับการเลือกทาสีบ้านไม้ สีอะไรดีและใช้สีประเภทใดจึงจะเหมาะสมกับเนื้อไม้และตรงแบบตามที่ผู้อยู่อาศัยต้องการ
ในปัจจุบันสีที่ใช้สำหรับไม้นั้นมีอยู่ 2 ประเภทคือ
1.สีย้อมไม้ โดยปกติมักมีลักษณะเป็นฟิล์มใสเคลือบพื้นผิวหน้าไม้เอาไว้ เหมาะสำหรับ ไม้ที่มีพื้นผิวสวยงาม และตัวเจ้าของบ้านเองก็ต้องการที่จะโชว์ลวดลายของไม้ โดยมีทั้งสีย้อมไม้สำหรับผนัง (Wood Stain) และสีย้อมไม้สำหรับพื้น(Decking Stain) สีประเภทย้อมไม้นั้น มีข้อดีมากมายนอกจากยังรักษาลวดลายไม้เอาไว้ได้เป็นอย่างดีแล้ว ยังทำให้ไม้ดูเหมือนใหม่อยู่เสมอ สามารถทำให้ไม้ที่เก่าแล้วให้กลับมาดูสวยงามได้อีกครั้ง ช่วยกันน้ำไม่ให้เข้าเนื้อไม้และทนทานต่อสภาพอากาศต่าง ๆ ได้เป็นอย่างดี ตัวสีประเภทนี้สามารถซึมลงไปในเนื้อไม้ได้มากกว่าประเภทอื่น จึงส่งผลให้ตัวสียึดเกาะได้ดีบนพื้นผิวของไม้และมีความแข็งแรงคงทน ไม่ต้องเจอปัญหาเสื่อมโทรมจนต้องกลับมาทาสีทับบ่อย ๆ อีกทั้งสีประเภทนี้ยังช่วยป้องกันปลวก มอด ไม่ให้มากัดกินสร้างความเสียหายบนพื้นผิวของไม้ได้อีกด้วย
สีย้อมไม้ มีทั้งแบบ ใส, เงาและกึ่งเงา ให้เลือกได้ตามความต้องการ หากต้องการโชว์ลายไม้มากๆ ก็ควรใช้แบบใส สำหรับแบบเงานั้นเหมาะใช้กับเฟอร์นิเจอร์ต่างๆ เพราะประเภทนี้มีความคงทนกับพื้นผิวอีกทั้งยังเพิ่มความเงางามได้ดีทั้งไม้เก่าและไม้ใหม่ ส่วนแบบกึ่งเงานั้น
จะมีความสวยงามในแบบที่ยังคงความเป็นธรรมชาติของเนื้อไม้เอาไว้ ต่อแสงแดดและน้ำได้ดี ซึ่งทั้งสามแบบนี้ต่างก็มีความสวยงามต่างกันไป อีกทั้งยังแข็งแรงคงทน สามารถทาได้ทั้งภายในและภายนอก ขึ้นอยู่กับความต้องการและรสนิยมของผู้อยู่อาศัยนั่นเอง
นอกจากนี้สีย้อมไม้ยังมีทั้งสูตรน้ำ และสูตรน้ำมันให้เลือกใช้ สำหรับสูตรน้ำนั้นเป็นสูตรสำเร็จที่สามารถเปิดกระป๋องแล้วใช้ทาได้ทันที ข้อดีคือมีความปลอดภัย ไม่มีกลิ่นฉุน เกาะเนื้อไม้ได้ดี แต่ข้อด้อยคือ ไม่ทนต่อสภาพแวดล้อมเท่าสูตรน้ำมัน เหมาะสำหรับใช้ภายในเพียงอย่างเดียว อีกทั้งต้องทาทับกันหลาย ๆ ชั้นจึงจะปรากฏสีต้องการ ส่วนสูตรน้ำมันนั้น หากจะใช้ต้องนำมาผสมกับทินเนอร์ ก่อน โดยอัตราส่วนที่ใส่ลงไปประมาณ 10 เปอร์เซ็นต์ของสี ข้อดีคือมีความแข็งแรงทนทานต่อสภาพแวดล้อม เหมาะกับใช้ทาทั้งภายในและภายนอก อีกทั้งไม่ต้องทาทับกันหลายชั้น ก็ได้สีที่ต้องการ ส่วนข้อด้อยคือจะแห้งช้า และมีกลิ่นฉุน
2.สีทาไม้ สีประเภทนี้เป็นแบบที่ทาและปกปิดลายเดิมของไม้ไปเลย โดยจะมีเนื้อสีเป็นฟิล์มทับบนพื้นผิวของไม้ เหมาะกับคนที่ต้องการให้อารมณ์ของไม้ดูแตกต่างออกไป หรืออาจจะเป็นไม้เก่าที่ไม่ต้องการโชว์ลายไม้แบบธรรมชาติแล้ว ก็สามารถใช้สีประเภทนี้ได้ ทั้งนี้สีประเภทนี้ก็มีความแข็งแรงทนทานเช่นกัน เหมาะกับทุกสภาพอากาศ ทั้งแดด ลม และฝน กันน้ำได้ดี สามารถทาได้ทั้งกับผิวไม้และโลหะอื่นๆ ให้สีที่สดและตรงกับแบบที่ต้องการ มีสีให้เลือกหลากหลาย ใช้ได้ทั้งกับภายในและภายนอก นอกจากนี้ยังสามารถป้องกันเชื้อรา และคราบสกปรกที่อาจ
จะเกิดขึ้นในอนาคตได้เป็นอย่างดี
สีทาไม้ โดยมากจะเป็นแบบเงามัน และอาจมีบ้าง แบบกึ่งเงาบ้าง แต่ยังไม่เยอะมากนักในปัจจุบัน ทั้งนี้สีสำหรับทาไม้ จะให้ความสวยงามในแบบอารมณ์ที่ต่างออกไปแล้วแต่
ที่เจ้าของบ้านต้องการ สามารถเนรมิตไม้ให้ฉีกไปจากรูปแบบเดิมๆ สร้างชีวิตชีวา แบบใหม่ๆ ให้กับไม้ อย่างไรก็ดี สีประเภทนี้ มักมีกลิ่นฉุน และแห้งช้า ใช้เวลามากกว่า 5 ชั่วโมง
สำหรับสูตรที่มีนั้นสีทาไม้โดยมากมักเป็นสูตรน้ำมัน เนื่องจากประเภทนี้มักให้การปกปิดเคลือบทึบมีชั้นฟิล์มเกาะพื้นผิว ให้ความเงางาม ทั้งนี้ก่อนลงสีประเภททาไม้ ควรทาสีรองพื้นเพื่อบำรุงเนื้อไม้ก่อน เป็นการป้องกัน มอด ปลวก ตลอดจนเชื้อเราต่างๆ จะทำให้ได้ผลลัพธ์ที่ดี และมีอายุการใช้งานที่ยาวนาน
ทั้งหมดทั้งมวลนี้ไม่ว่าจะสีย้อมไม้หรือสีทาไม้ ต่างก็มีข้อดีข้อเสียแตกต่างกันไป ควรเลือกให้ตรงกับความต้องการและจุดประสงค์ หากเน้นความเป็นธรรมชาติ ก็เลือกสีย้อมไม้ แต่หากอยากได้อารมณ์แปลกใหม่ก็สามารถเลือกสีทาไม้ได้เช่นกัน อย่างไรก็ตามควรศึกษาข้อมูลหรือปรึกษาช่างผู้มีประสบการณ์ก่อนเลือกสีทาบ้านในแบบต่างๆ เพื่อให้เกิดความเหมาะสมกับพื้นผิวและประโยชน์ต่อตัวเจ้าของบ้านเอง